เรียนรู้จากความพ่ายแพ้

ข้อมูลเบื้องต้น

เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ เป้นบทความที่กล่าวถึงการเรียนรู้จากความผิดพลาดในเกมฟุตบอล นำมารวมเข้ากับการทำธุรกิจ 
จากเว็บไซต์ Bisonfirm19.com 

เนื้อเรื่อง

Jiangsu Sainty 2-0 Buriram United

           จบลงไปแล้วกับความพ่ายแพ้ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีต่อ เจียงสู เซินตี้ 0 ประตูต่อ 2 จากที่นั่งชมการถ่ายทอดสดจากประเทศจีนนั้นนับได้ว่าสนามที่ใช้การแข่งขันช่างดูดีมีรสนิยมเสียเหลือเกิน โอ่อ่า อลังการ จริงนะครับ

         จากผลการแข่งขันเมื่อคืนทำให้บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ตกมาอยู่อันดับที่ 4 หรืออันดับสุดท้ายของกลุ่ม e มีเพียงสองคะแนนจาก สามนัดที่ผ่านมา ประตูติดลบ อยู่ สองประตู  ส่วนเจิงสู เซินตี้ ก้าวขึ้นไปรั้งอันดับสองด้วยคะแนนรวม 4 คะแนน แต่ประตูติดลบไป 2 เนื่องจากนัดแรกโโน fc seoul ถล่มมาอยู่างหนักหน่วง

         แต่ทว่าเว็บนี้ไม่ใช่เว็บไซต์กีฬาสักหน่อย ดังนั้นจึงขอข้ามไป  ผมนาย Shahikot เจ้าของ column ความคิด CEO จะมานำเสนอ บทความเรื่อง "เรียนรู้จากความพ่ายแพ้"

          โลกใบนี้ หากลองมองให้ดีจะสามารถแบ่งคนได้เป็นสองประเภทคือ พวกมองในแง่บอก กับ พวกมองในแง่ลบ 

จากสถานการณื์ข้างต้นที่กล่าวไปของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

พวกมองในแง่ลบ : ตกรอบแน่ๆ ยังไงก็ตกรอบ แล้วก็มักจะหาว่าใครเป็นคนผิด แล้วก็โทษโน่นโทษนี่ 

พวกมองในแง่บวก : เรายังมีความหวัง ยังเหลือการแข่งขันอีก 3 นัดให้แก้ไข

เห็นมั้ยละครับ ว่าความรู้สึกมันต่างกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าแค่มองในแง่บวก แล้วโลกจะสดใสขึ้นมาทันตา ทุกอย่างจะดำเนินไปได้นะครับ เราต้องหาข้อผิดพลาด ไม่ใช่การโทษว่าใครผิด แต่เป็นการนำข้อผิดพลาดนั้นมาแก้ไข เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น

จากเกมเมื่อคืนนี้ สามารถวิเคราะห์ข้อผิดพลาดได้ดังนี้ 

- การเปลี่ยน อนาวินลงมาแทน แชมปุยส์ ทำให้แดนกลางขาดประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง

- การทำชิ่ง วัน ทู ที่ไม่แม่นยำ และเร่งจังหวะจนเกินไป

- ความไม่เฉียบคมของกองหน้า

จากหัวข้อใหญ่ที่กล่าวมาเราสามารถนำมาวิเคราะห์ย่อยได้อีกดังต่อไปนี้

 - การเปลี่ยน อนาวินลงมาแทน แชมปุยส์ ทำให้แดนกลางขาดประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง

ผมเองที่นั่งดูอยู่ ถึงกับงงว่าเปลี่ยนเอาแชปปุยส์ออกทำไม ในเมื่อกำลังทำเกมรุกดีๆ หรือว่าเขาจะมีอาการบาดเจ็บ อันนี้ไม่ทราบได้ แต่พอเปลี่ยนเขาออกเเล้วจากจังหวะเกมส์ที่สูสี กลายเป็นว่าโดนกระหน่ำบุก แดนกลางขาดคนไล่บอล เพราะอนาวินเป็นปีกตัว รุกทางริมเส้นด้านขวา กองกลางฝั่งจีนมีเวลามากขึ้นก็สร้างสรรค์เกมได้ง่ายขึ้น แล้วเราก็เสียประตูแรก

เทียบกับทางธุรกิจ ก็คือ แก้ปัญหาไม่ถูกจุดนั่นเอง สิ้นค้าขายไม่ดีเพราะสินค้ามันไม่น่าสนใจ แต่มัวไปปรับแต่งหน้าร้านอยู่ได้ ประมาณนี้นะครับ

- การทำชิ่ง วัน ทู ที่ไม่แม่นยำ และเร่งจังหวะจนเกินไป

ประตูที่สองที่เสียอีกในหนึ่งนาทีต่อมาก็เสียจากจังหวะที่สุรีย์พยายามเล่นชิ่งบอลเร็วแต่จ่าบบอลผิดพลาด พอโดนบุกมาก็เลยเสียประตูที่สองไป เป็นการเสียแบบไม่น่าเสียจริงๆ และยังมีอีกหลายๆจังหวะที่นักเตะบุรีรัมย์ เล่นชิ่งพลาดทำให้โดนตัดบอลจากกลางสนามบ่อยครั้งจนต้อง เสียเเรงเพื่อมาวิ่งไล่บอล

เทียบกับทางธุรกิจ การปล่อยสินค้าออกมาไม่ถูกเวลาประมาณนั้นแหละครับ ตัวอย่างเช่นคุณมีเสื้อผ้าสำหรับหน้าหนาว แต่ดันมาเปิดตัวตอนช่วงเมษายน ใครมันจะไปซื้อกันนะครับ ถ้าให้ดึก็ควรเปิดตัวช่วงปลายๆหน้าฝน

- ความไม่เฉียบคมของกองหน้า

กองหน้าชุดนี้ไม่มีตัวจี๊ด อย่างอาเชียมปง ทำให้ดูคัดหูขัดตาชะมัด ไค ฮิาโนะก็ยังไม่เจ๋งพอ บุสโตส ยิ่งเเล้วใหญ่ จากที่สังเกตุเมื่อวานคือ กงหน้าชอบวิ่งตามไลน์กองหลัง เพื่อรอจะได้บอล เกมแบบนี้โค้ชต้องสั่งให้กองหน้าหาช่องเมื่อฉีกแนวรับ ไม่ใช่การวิ่งตามไลน์เพื่อรอจะเอาบอลอย่างเดียว 

เทียบกับทางธุรกิจ คือ พนักงานขายที่ยังไม่ดีพอคือ ปิดยอดไม่ได้ ไม่มีคนมาซื้อเราก็ต้องเทรนใหม่ หรือหาพนักงานขายที่เจ๋งกว่าเพื่อทำสกอร์นั่นเองครับ 

นี่จะเป็นประสบการณ์ที่ดีถ้าหากมองข้อผิดพลาดเเล้วแก้ไข ให้ถูกจุดบริษัทของเราก็เหมือนกัน เราต้องมองให้ออกว่า ทำไมเรายังสู้คู่แข่งเขาไม่ได้ เขามีดีตรงไหน เราด้อยตรงไหน แล้วปรับปรุง สักวันบริษัทของเราจะต้องผงาดขึ้นสู่อันดับโลกจนได้ 

Shahikot ความคิด CEO
เรียนรู้ เทคนิคการใช้งาน Photoshop คลิกเลย